มาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค...ให้คร่อมองค์
กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค...ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก คือของสัตว์ดิรัจฉาน
อุภโตพยัญชนกมีเครื่องลาด...ถ้าเธอยินดีการเข้าไป...ต้องอาบัติปาราชิก
...สัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนกผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก... ต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี...ไม่ต้องอาบัติ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ¹
หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก 27 จตุกกะ จบ²

7. หมวดมนุสสะปัณฑกะ 18 จตุกกะ

1. มนุสสะปัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ [ทับ]

พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์บัณเฑาะก์มาในสำนักภิกษุ แล้วให้
ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค คือของบัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ของภิกษุไม่มี
เครื่องลาด 1 ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่องลาด ของภิกษุมีเครื่องลาด 1 ของ
บัณเฑาะก์มีเครื่องลาด ของภิกษุก็มีเครื่องลาด 1 ของบัณเฑาะก์ไม่มีเครื่อง
ลาด ของภิกษุก็ไม่มีเครื่องลาด 1 ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึง
ที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก.
1. ที่...ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ไว้นั้น พึงทราบตามนัยดังกล่าวแล้วในมนุสสติถีนั้นเถิด.
2. สุทธิกะ 3 จตุกกะ ชาครันตี 3 จตุกกะ
สุตตะ 3 จตุกกะ มัตตะ 3 จตุกกะ
อุมมัตตะ 3 จตุกกะ ปมัตตะ 3 จตุกกะ
มตะอักขายิตะ 3 จตุกกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะ 3 จตุกกะ
มตะเยภุยยะขายิตะ 3 จตุกกะ 3 x 9 = 27 จตุกกะ
มนุสสิตถี 27 จตุกกะ อมนุสสติถี 27 จตุกกะ
ดิรัจฉานคติถี 27 จตุกกะ มนุสสะอุภโตพยัญชนก 27 จตุกกะ
อมนุสสะอุภโตพยัญชนก 27 จตุกกะ ติรัจฉานคตะอภุโตพยัญชนก 27 จตุกกะ
27 X 6=~162 จตุกกะ.